1 Turntable
ก็คือเครื่องเล่นแผ่นเสียงนั้นเอง ในบ้านเราชอบเรียกติดปากว่า “Turn” มีมาตั้งแต่เกือบร้อยกว่าปีมาแล้วแต่ที่สำหรับ dj เล่นนั้นก็ไม่กี่สิบปีมานี้เอง Turn มีการแบ่งประเภทตามระบบการเล่นได้ 2 แบบได้ดังนี้
1.1 Turntable Direct Drive System <ระบบไดเรค์ไดรวฟ์>
เป็นระบบที่นิยมมากที่สุดของการเล่นของ dj มืออาชีพและเป็นระบบที่แนะนำให้เล่นมากที่สุดเพราะ Direct Drive ก็คือการขับของมอเตอร์<แรงขับเรียกว่า Torqe>ที่ขับจานเล่นแผ่นแบบตรงๆ แกนตรงกลางนั้นเรียกว่า Spindle คือแกนที่สำหรับวางแผ่นเสียงลงไปแกนนั้นคือแกนหลักของมอเตอร์นั้นเองและจานเล่นแผ่น เรียกว่า Platter นั้นก็เป็นอีกขั้วหนึ่งของมอเตอร์เมื่อเปิดกระแสไฟฟ้าขั้วทั้งสองก็จะหมุนส่งผลให้ Platter หมุนได้อย่างดีและเสถียรกว่าลองนึกถึงมอเตอร์รถของเล่นดูว่ามันจะมีขั้วแม่เหล็กขั้วบวกลบอยู่ภายในมอเตอร์ แต่ถ้าเป็น Turn อีกขั้วหนึ่งจะอยู่ข้างล่างและอีกขั้วหนึ่งคือจานเล่นแผ่นมันก็เลยขับได้ดีกว่าระบบอื่น และ Turn ระบบนี้จะมีน้ำหนักที่มากและราคาแพงยี่ห้อถือเป็น standard ของ dj คือ Technics sl-1200mk2 เป็นของประเทศญี่ปุ่นสายการผลิตเป็นสิบปีแล้ว แต่ก็ยังมียี่ห้ออื่นที่ดีไม่แพ้กัน เช่น Stanton,Vestax,Numark,Gemini ราคาตกตัวละ สองหมื่นขึ้นไป
1.2 Turntable Belt Drive System <ระบบเบลท์ไดรวฟ์>
เป็นระบบที่มีคนเล่นน้อยเนื่องจากระบบการทำงานใช้มอเตอร์ขับจาน Platter ด้วยสายพานทำให้แรงขับไม่ดีคือออกตัวช้านั่นเองนึกถึงจักรยานดู เหมาะสำหรับไว้เปิดฟังที่บ้าน Turn ระบบนี้มีราคาถูกมากบางยี่ห้อราคาไม่ถึงหมื่นก็มีแถมหัวเข็มให้อีกด้วยเหมาะสำหรับ dj มือใหม่หรือหัดเล่น มีน้ำหนักเบาแต่ถ้าจะเล่นเอาจริงจังไม่ควรซื้อ
ชิ้นส่วนต่างๆของ Turntable
1 Start/Stop button
2 Target light
3 Speed adjust 33/45 rpm
4 Pitch adjust 10%,20%,50%
5 Tone arm
6 Tone arm adjust
7 Weight adjust balance
8 Power on/off
9 Spindle
10 Platter
2 CD Player
เครื่องเล่น cd สำหรับ dj แตกต่างกับเครื่องเล่นทั่วไปตรงที่ มี Pitch ปรับความเร็วของเพลง มี efectบางยี่ห้อสามารถ Scratch ได้และเล่นแผ่น Mp3,Dvd,Media card ได้ยี่ห้อที่ติดตลาดตอนนี้มี Pioneer,Denon,Numarkหน้าจอมีแบบ digital,lcdแสดงผลรายละเอียด บ้านเราชอบเรียกว่า ‘CDJ’ แบ่งประเภทได้ดังนี้
2.1 CD Single Player
เป็นเครื่องแบบใส่แผ่นได้แผ่นเดียววางไว้บนโต๊ะหรือด้านบน booth dj มีทั้งใส่แผ่นด้านบน top loadและใส่แผ่นด้านหน้า front load.ตัวอย่าง CDJ 100,CDJ 800,CDJ 1000,Numark Axis.เครื่องแบบนี้เคลื่อนย้ายง่ายราคาไม่แพงมาก
2.2 CD Dual Player
เป็นเครื่องแบบมีสองช่องใส่แผ่นการวางจะต้องเจาะวางลงไปในbooth dj และใช้น๊อทยึด เคลื่อนย้ายไม่ได้ ตัวอย่าง Denon.Numark
3 Mixer
คือเครื่องผสมเสียงหรือ Mix เสียงจาก Line Turntable,CD มาออกเป็น line เดียวกัน Mixer มีหลาย chanel ตามมาตรฐานคือ 2 ,3,4 chanel จำไว้ว่าเสียงเพลงจะออกมาดีหรือไม่อยู่ที่ Mixer บางรุ่นเป็นระบบ Stereo mixerและ Digital mixer 24 bitแม้กระทั่งระบบหลอดก็มี ราคาไม่ถึงหมื่นจนถึงแสนบาท แบ่งประเภทของ Mixer ตามแนวเพลงได้ 2 ประเภท
3.1 Club Mixer
เป็น Mixer สำหรับแนว Houseแนว Dance มีตัวปรับเสียง Eq,Efect.มี 2-4 chanel
3.2 Scratch Mixer
เป็น Mixer สำหรับแนว Hiphop ที่เน้นการ scratch มีตัว Curve adjust ตรง Crossfader เพื่อปรับระดับเสียง Mixer พวกนี้ Fader,Crossfader จะลื่นมาก มาตรฐานมี 2 chanel
4 Cartridge
คือหัวเข็มนั้นเองเพราะ Turntable ยังเป็น analog อยู่อ่านเสียงด้วยเข็มลงไปในร่องที่ต่างกันในแผ่น Vinyl จนเกิดเสียงออกมา ต้องขอขอบคุณ โทมัสเอดิสัน ที่คิดค้นขึ้นมาได้ หัวเข็มมีหลายแบบหลายรูปทรงแบบกล่องเหลี่ยมๆจนถึงแบบหัว Concord(เครื่องบิน) หัวเข็มเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดควรเก็บรักษาให้ดีเพราะราคากับขนาดนั้นนั้นไม่สัมพันธ์กันเลย ขนาดไม่กี่มิล .ราคา 4-5พันบาทก็มีถ้าหักไปก็เปลี่ยนเฉพาะปลายไม่ต้องเปลี่ยนทั้งอัน(สมัยผู้เขียนตอนเด็กพ่อห้ามเล่น)แต่หัวเข็มทำมาเฉพาะให้dj เล่นจึงมีความทนทานกว่าและให้เสียงที่ out put มากกว่าหัวเข็มสำหรับฟังทั่วไปบางรุ่นทนต่อการ Scratch รุนแรงได้ยี่ห้อตอนนี้มี ShureM447,Ortofon,Stanton,Numark ราคามีตั้งแต่ 2-5พันบาท
และยังมีหัวเข็มรุ่นใหม่ที่ไม่ต้องยึดกับ Headshell รูปทรงทันสมัยกว่าและทำให้การวางตำแหน่งเข็มกับแผ่นง่ายเพราะไม่มี Headshell บังสายตา
5 Headphone
เป็นหูฟังแบบครอบศรีษะที่ dj นิยมใช้มีขนาดที่ใหญ่เพื่อให้เสียงฟังชัดเจนและรายละเอียดเสียง ทุ้ม กลาง แหลม ชัดขึ้น เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญเพราะต้องใช้ไว้ในการ Mix เพลงและแนะนำว่า dj ต้องมีส่วนตัว Headphone มีหลายแบบหลายยี่ห้อเลือกใช้ได้ตามถนัด
